10 เรื่อง ที่ควรรู้ก่อนซื้อประกันอุบัติเหตุ

10 เรื่อง ที่ควรรู้ก่อนซื้อประกันอุบัติเหตุ

สารบัญ

ในปัจจุบันข่าวอุบัติเหตุตามสื่อสังคมออนไลน์ก็มีให้เห็นแทบทุกวันบางเหตุการณ์ก็เล็กน้อยแต่บางเหตุการณ์ก็ถึงขั้นสูญเสียจนทำให้หลายคนเริ่มหันมาซื้อประกันอุบัติเหตุเก็บไว้เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวเองรวมถึงเป็นหลักประกันให้กับครอบครัวในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกนั้นเราไม่รู้ว่าจะต้องเลือกบริษัทประกันไหนดี และ ประกันประเภทนี้ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ถ้าทำไปแล้วจะสามารถเบิกได้ตามที่บริษัทประกันบอกไว้หรือไม่ วันนี้โปรประกันมีคำตอบให้ทุกคน เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาไปดูกันเลยค่ะ

1.  อุบัติเหตุ คืออะไร?

     อุบัติเหตุ พูดง่ายๆก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยกระทันหัน ไม่มีเหตุบอกล่วงหน้า และเป็นเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดมาก่อน ว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้ร่างกายของเราได้รับบาดเจ็บ หากถึงขั้นร้ายแรงก็อาจจะพิการหรือเสียชีวิตเลยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น รถชน, ตกตึก, มีดบาด, น้ำร้อนลวก, ไฟดูด หรือ สุนัขกัด ดังนั้น โปรประกันแนะนำว่า อย่างน้อยเราควรมีประกันอุบัติเหตุไว้คุ้มครองอย่างน้อย 1 ฉบับ เผื่อในเวลาที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา เราจะได้ไม่ต้องรับความเสี่ยงหรือเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่รู้เลยว่าจะมากน้อยแค่ไหนค่ะ

2. หากซื้อประกันอุบัติเหตุแล้ว จะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง ?

     ประกันอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น

  • คุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะต่างๆ หรือพิการนั่นเอง เช่น สูญเสียแขน, ขา, มือ, เท้า และ ดวงตา ซึ่งการสูญเสียอวัยวะดังกล่าวนี้จะต้องเป็นระดับตั้งแต่ข้อเป็นต้นไปนะคะ อาทิเช่น ข้อนิ้ว, ข้อเท้า หรือ ข้อมือ แต่ถ้าเสียแค่ปลายนิ้ว จะถือว่าเป็นการบาดเจ็บ ก็จะได้เฉพาะค่ารักษาพยาบาลค่ะ
  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุ
  • ชดเชยรายได้กรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (IPD) ที่โรงพยาบาล

 

นอกจากนั้นบางบริษัทประกันอาจจะเพิ่มความคุ้มครองในกรณีอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย อาทิเช่น เงินปลอบขวัญ หรือ หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก็จะมีเงินชดเชยสำหรับค่าเลี้ยงดู อีกทั้งยังมีบริการเสริม ให้พยาบาลมาดูแลสุขภาพหลังออกจากโรงพยาบาลให้ ทั้งนี้ทั้งนั้นสิทธิประโยชน์ดังกล่าวขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยกำหนดนะคะ

3. ช่วงอายุเท่าไหร่จึงควรทำประกันอุบัติเหตุ ?

     บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องนึกถึงช่วงอายุ จริงๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุเท่าไรก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ทั้งนั้น จะเป็นเด็ก, ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตามอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เราสามารถที่จะเลือกบรรเทาความเสี่ยงนั้นให้เบาบางลงได้ ดังนั้นหลายคนจึงให้ความสำคัญกับการทำประกันอุบัติเหตุไม่น้อยไปกว่าการทำประกันรถยนต์หรือประกันสุขภาพเลยทีเดียว  ส่วนช่วงอายุเป็นหนึ่งข้อสำคัญในการรับประกันด้วยเช่นกัน ส่วนใหญ่ประกันอุบัติเหตุทั่วไปๆ จะจำกัดช่วงอายุโดยเฉลี่ยไม่เกิน 65-70 ปี หากอายุเกินกว่านั้นก็จะเสียโอกาสในการทำประกันอุบัติเหตุไป แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปเพราะว่า โปรประกัน มี “ประกันอุบัติเหตุสำหรับผู้สูงวัย” โดยเฉพาะ อีกทั้งยังให้ความคุ้มครองแบบระยะยาวไปจนถึงอายุ 100 ปี เลยทีเดียวค่ะ

4. อาชีพของเราไม่มีความเสี่ยงถึงขั้นไม่ต้องทำประกันอุบัติเหตุก็ได้ จริงหรือไม่ ?

     ในความเป็นจริงทุกอาชีพมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ทั้งนั้น ยิ่งถ้าเรารู้ว่างานประจำที่เราทำอยู่นั้นมันมีความเสียงมากกว่าคนอื่น เช่น วิศวกร, คนงานก่อสร้าง หรือ ชาวประมงที่ออกเรือหาปลาเป็นประจำ ยิ่งต้องทำอย่ารอช้า เพราะอุบัติเหตุไม่เคยรอใคร หากโชคไม่ดีเกิดเหตุขึ้นมาจะได้ไม่เดือนร้อนตัวเองและคนอื่น ดังนั้นเราควรหาซื้อประกันอุบัติเหตุเก็บไว้เพื่อลดความเสี่ยงที่เราควบคุมไม่ได้ให้เบาบางลง ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล, ค่ายา, ค่าหมอ หรือเงินชดเชยรายได้กรณีไม่สามารถทำงานได้ และถ้าโชคร้ายเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับเราก็จะมีเงินก้อนให้กับคนที่เรารักได้มีชีวิตอยู่ต่อได้โดยไม่ลำบากค่ะ

5. ราคาค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุแพง หรือไม่ ?

     สำหรับค่าเบี้ยประกันอุบัติเหตุนั้นจะขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกความคุ้มครองแบบไหน ความเสี่ยงเป็นอย่างไร รวมถึงทุนประกันและวงเงินชดเชยค่าเสียหายที่บริษัทประกันจะจ่ายคืนให้กับเราหากได้รับอุบัติเหตุ และที่สำคัญเราสามารถเลือกได้ว่าทุนหรือวงเงินเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกับเรา โดยแต่ละบริษัทประกันจะมีการคิดค่าเบี้ยที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทุนประกัน, อาชีพ, ความเสี่ยงภัย และช่วงอายุ ประกอบด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อประกันอุบัติเหตุเราควรจะดูความคุ้มครองและผลประโยชน์ที่ได้รับก่อน อีกทั้งราคาต้องสมเหตุสมผลกับสิ่งที่เราจ่ายไป รวมถึงได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมกับสิ่งที่เราต้องการ ซึ่งในปัจจุบันก็มีแบบแผนประกันให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น “ประกันอุบัติเหตุแบบรายบุคคล” หรือ “แบบครอบครัว” 

6. เราจำเป็นต้องรู้ เงื่อนไขและข้อยกเว้นต่างๆ ของประกันอุบัติเหตุที่เราซื้อหรือไม่ ?

     นอกจากความคุ้มครองของประกันอุบัติเหตุที่เราเลือกซื้อแล้วนั้น ในด้านเงื่อนไขหรือข้อยกเว้นต่างๆในเอกสารความคุ้มครอง เราก็ควรที่จะต้องรู้เช่นเดียวกัน เพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเอง ซึ่งเงื่อนไขและข้อยกเว้นต่างๆที่เราควรรู้ อาทิเช่น เรื่องของอาชีพ ตำรวจ, ทหาร หรือ ก่อสร้าง หากเกิดอุบัติเหตุในขณะทำงานจะไม่ได้รับความคุ้มครอง หรือ เรื่องของโรคประจำตัว เช่น เป็นลมบ้าหมู เกิดอาการชักแล้วตกบันได จนได้รับบาดเจ็บ กรณีดังกล่าวบริษัทประกันภัยจะไม่คุ้มครอง ดังนั้น เงื่อนไขและข้อยกเว้นพวกนี้ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่เราควรรู้ ก่อนจะซื้อประกันอุบัติเหตุ

7. จะเลือกทำประกันอุบัติเหตุกับบริษัทประกันไหนดี ? 

     การที่เราจะเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุสัก 1 ฉบับ หลายท่านอาจจะนึกถึงเรื่องของราคาเป็นอันดับแรก แต่ชื่อเสียงและความมั่นคงของบริษัทประกันภัย ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเช่นกัน เพราะสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเรา ยกตัวอย่างเช่น การใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลโดยไม่ต้องสำรองจ่าย หรือ สามารถเบิกเงินชดเชยรายได้ในกรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ที่สำคัญเวลาเบิกเคลมจะได้รับการจ่ายสินไหมอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากเราเลือกบริษัทประกันที่ไม่มีชื่อเสียงหรือเบี้ยประกันถูกเกินไป บริษัทประกันนั้นอาจจะมีปัญหาด้านการเงินหรือขาดสภาพคล่องในการบริหาร เวลาลูกค้าเบิกเคลมก็จะทำให้เกิดความล่าช้าในการชดเชยค่าเสียหายได้ค่ะ

8. เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เราสามารถเข้ารักษาที่ โรงพยาบาล ไหนได้บ้าง ?

     ในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุเชื่อว่าเราทุกคนคงต้องการเข้ารักษาโรงพยาบาลใกล้ที่สุด แต่ถ้าบังเอิญโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษานั้นไม่ได้เป็นคู่สัญญากับบริษัทประกันที่เราทำไว้ อาจจะมีเรื่องของส่วนต่างของค่ารักษาพยาบาลและขั้นตอนการเบิกเคลมที่ล่าช้าได้ ดังนั้น ก่อนซื้อประกันอุบัติเหตุเราควรคำนึงถึงโรงพยาบาลคู่สัญญาของบริษัทประกันภัยด้วยว่าครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน เช่นโรงพยาบาลที่เคยใช้บริการอยู่ประจำหรือโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านสามารถเดินทางสะดวก หากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจะได้ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น

9. เลือกซื้อประกันอุบัติเหตุทั้งที เราควรนึกถึง การบริการหลังการขาย

     ไม่ว่าเราจะซื้อประกันกับบริษัทไหนก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการดูแลและการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าซื้อแล้วจบเวลาเกิดปัญหาไม่มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ หรือ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับเราได้ ดังนั้นเราจึงต้องเลือกบริษัทประกันภัยที่มั่นใจได้ว่ามีบริการหลังการขายที่ดี และ พร้อมเป็นที่ปรึกษาได้ทุกเมื่อ

10. เราควรเลือกซื้อประกันอุบัติเหตุจากบริษัทประกันโดยตรง หรือผ่านตัวแทน

    การซื้อประกันอุบัติเหตุผ่านบริษัทประกันภัยโดยตรงหรือผ่านตัวแทนต่างก็มีข้อดีและข้อเสียกันคนละแบบขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน เช่น หากซื้อกับบริษัทประกันภัยโดยตรงเราสามารถเข้าไปติดต่อผ่านสาขาใกล้บ้านโดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกหลอก และ อาจจะเหมาะกับลูกค้าที่ไม่สะดวกคุยผ่านทางโทรศัพท์ แต่ในทางกลับกัน การซื้อประกันผ่านตัวแทน ก็จะเหมาะกับผู้ที่ไม่สะดวกเข้าไปติดต่อบริษัทประกันภัยด้วยตัวเอง เพราะสามารถทำเรื่องผ่านทางโทรศัพท์หรือช่องทางออนไลน์แทนได้ แต่ก็ควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่าตัวแทนที่เราติดต่อน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน มีตัวตนจริงหรือไม่ก่อนจะตกลงซื้อประกัน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 10 เรื่องที่ควรรู้ก่อนซื้อประกันอุบัติเหตุ โปรประกันหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่กำลังมองหาประกันอุบัติเหตุอยู่ ในครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้นอย่าลืมติดตาม โปรประกันด้วยนะคะ