รู้หรือไม่ ซื้อประกันสุขภาพแต่ไม่ได้ความคุ้มครอง

รู้หรือไม่ ซื้อประกันสุขภาพแต่ไม่ได้ความคุ้มครอง

     ท่ามกลางสถานการ์โรคระบาดและเชื้อไวรัสในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 ที่พึ่งจะคลี่คลายลงไปแต่เจ้าไวรัสโควิด-19 ยังคงระบาดอยุ่ถึงแม้ว่าจะมีการป้องกันจากภาครัฐแล้วก็ตาม ซึ่งหลายคนได้หันมาซื้อประกันสุขภาพเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโรคภัยดังกล่าวไว้แล้ว แต่บางคนยังกังวลไม่กล้าที่จะซื้อเพราะกลัวว่าซื้อไปแล้วจะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันหรือไม่ และ จะมีข้อยกเว้นอะไรที่บริษัทประกันจะปฏิเสธไม่คุ้มครอง วันนี้ทางโปรประกันอยากให้คุณได้อ่านบทความนี้ก่อนที่จะเลือกซื้อประกันสุขภาพสักฉบับ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาไปดูกันเลยค่ะ

1. การบาดเจ็บ หรือ อาการเจ็บป่วย ที่มีการรักษามาก่อนการทำประกันภัย

แต่ทางบริษัทประกันจะมีการยกเว้นประเด็นดังกล่าวโดยแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้

  • กรณีที่ผู้เอาประกันภัย แถลงข้อมูลโรค หรือ อาการเจ็บป่วยที่รักษาอยู่ให้ครบถ้วนตามความเป็นจริง โดยระบุข้อมูลทั้งหมด (ถ้ามี) ลงในเอกสารใบสมัครทำประกัน และ ทางบริษัทประกันภัยพิจารณาจากเอกสารที่ส่งเข้ามาแล้วไม่ติดประเด็นใดๆ
  • กรณีที่ผู้เอาประกันทำประกันภัยต่อเนื่องเกินกว่า 3 ปี ซึ่งโรคที่เป็นอยู่นั้นไม่ปรากฏอาการ ใดๆ อีกทั้งไม่เคยเข้ารับการตรวจรักษา หรือ ปรึกษาแพทย์เลย ภายในระยะเวลา 5 ปีก่อนวันที่กรมธรรม์เริ่มคุ้มครองครั้งแรก

2. ระยะเวลารอคอย

หลังจากที่กรอกใบสมัครให้กับทางบริษัทประกันภัยและได้รับความคุ้มครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้เอาประกันจะยังไม่สามารถใช้สิทธิ์การรักษา จนกว่าจะครบระยะเวลารอคอยจากวันที่กรมธรรม์เริ่มคุ้มครองครั้งแรก ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันภัยเป็นผู้กำหนด

3. การเจ็บป่วยที่มีการรักษาต่อเนื่อง

โรคบางชนิดจัดว่าเป็นโรคที่ต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตัวอย่างโรคที่บริษัทประกันภัยกำหนดไว้มี ดังนี้

  • เนื้องอก ถุงน้ำ หรือ มะเร็งทุกชนิด
  • ริดสีดวงทวาร
  • ไส้เลื่อนทุกชนิด
  • ต้อเนื้อ หรือ ต้อกระจก
  • การตัดทอนซิล หรือ อดีนอยด์
  • นิ่วทุกชนิด
  • เส้นเลือดขอดที่ขา
  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ข้อควรระวัง: แบบประกันของแต่บริษัทประกันอาจกำหนดโรคไว้แตกต่างกัน โปรประกันขอแนะนำว่าก่อนการเลือกซื้อควรดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากเอกสารแนบท้าย หรือ ข้อมูลรายละเอียดสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองนะคะ

4. ข้อยกเว้นทั่วไป

นอกจาก 3 ข้อข้างต้นที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีข้อยกเว้นทั่วไปที่ผู้เอาประกันภัยอย่างเราควรจะรู้ไว้ เนื่องจากเงื่อนไขและข้อยกเว้นของทุกบริษัทประกันภัยจะกำหนดไว้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ไม่คุ้มครองการรักษาที่มีลักษณะเสริมความงาม, การร้องขอเข้ารับการรักษาโดยไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์ หรือ โรคที่เกี่ยวเนื่องกับสภาวะทางจิตใจ อย่างไรก็ตามข้อยกเว้นบางข้อ บริษัทประกันอาจจะออกแบบเงื่อนไข และ สิทธิประโยชน์ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่จะพิจารณาซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ค่ะ โดยทุกท่านสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก “ ข้อยกเว้นทั่วไปของประกันสุขภาพ ” ค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลในวันนี้โปรประกันหวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านได้มากพอสมควรเลย เนื่องจากการเลือกซื้อประกันสุขภาพสักฉบับในชั่วโมงนี้คงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไร แต่จะเข้าใจในเงื่อนไขข้อยกเว้น หรือ ผลประโยชน์ความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยที่กำหนดไว้ได้หมดหรือไม่นั้นคงต้องใช้ระยะเวลาศึกษาข้อมูลพอสมควร ในครั้งหน้าจะมีเรื่องราวอะไรดีๆ น่าสนใจมาฝากอย่างลืมติดตามกันนะคะ # ความมั่งคั่งที่แท้จริงคือการมีสุขภาพที่ดี # อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ