การแจ้งข้อมูลที่ถูกต้อง เมื่อรถยนต์ประสบอุบัติเหตุ

การแจ้งข้อมูลที่ถูกต้อง เมื่อรถยนต์ประสบอุบัติเหตุ

เมื่อรถยนต์ประสบอุบัติเหตุ ท่านควรเตรียมรายละเอียดเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อสามารถตอบคำถามจากเจ้าหน้าที่ ของบริษัทฯ ได้ทันที โดยไม่ก่อให้เกิดความล่าช้า ดังนี้ 1. ชื่อผู้เอาประกันภัย และหมายเลขกรมธรรม์ 2. เลขทะเบียน, ยี่ห้อ, สีของรถเอาประกัน และชื่อผู้ขับ 3. สาเหตุการเกิดเหตุโดยย่อ 4. สถานที่เกิดเหตุ จุดสังเกต และสถานที่นัดหมาย เช่น สถานีตำรวจ 5. จดชื่อผู้รับแจ้งของบริษัทฯ พร้อมเวลาที่แจ้ง สำหรับข้อ 4 และ 5 มีความจำเป็นมาก สำหรับเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ข้อมูลยิ่งชัดเจนเท่าไร เจ้าหน้าที่ก็จะไปถึงท่านได้เร็วขึ้นเท่านั้น และยังเป็นการระบุบุคคลผู้รับแจ้ง ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อท่านในเบื้องต้น กรณีรถของท่านถูกชนแล้วคู่กรณีหลบหนี หากจดจำทะเบียนของรถคู่กรณีได้ ท่านต้องแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดี ไม่ใช่การแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น กรณีรถของท่านถูกยึด หากท่านถูกยึดรถไว้ตรวจสภาพที่สถานีตำรวจ ควรให้ร้อยเวรเจ้าของเรื่องตรวจสอบสิ่งของมีค่าในรถ และลงบันทึกไว้ในประจำวันด้วย กรณีรถหาย – ควรรีบแจ้งสถานีตำรวจท้องที่ และศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ (ศปร.) โทรศัพท์ 0-245-9059 และ 0-245-6951 ทันที พร้อมแจ้งรายละเอียดที่จำเป็น คือ ทะเบียนรถ, สีรถ, เลขตัวถึง, สถานที่ และวันเวลาที่รถหาย – รีบจัดส่งเอกสารจำเป็นตามที่บริษัทฯ เรียกจากท่าน เพื่อบริษัทฯ จะดำเนินการตรวจสอบ และพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมให้โดยเร็วที่สุด หากท่านทราบเบาะแส หรือร่องรอยรถของท่านที่หายไป โปรดแจ้งบริษัทฯ และบริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านไว้เป็นความลับ โปรประกันแนะนำว่าเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์ ควรเก็บข้อมูลไว้ในรถ ไม่ว่าจะเป็นสำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เพราะจะมีเบอร์โทรศัพท์ของประกันภัยระบุไว้ในเอกสาร สำเนาทะเบียนรถ เป็นต้น เพื่อความสะดวกในการแจ้งเคลมประกันภัยนะครับผม

Comments are closed.