10 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ

10 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ

ก่อนซื้อประกันสุขภาพ หลายคนคงมีคำถามว่า จะเลือกซื้อประกันสุขภาพ ที่ไหนดี? บริษัทประกันไหนดี? ควรซื้อแบบคุ้มครองผู้ป่วยนอก OPD หรือไม่? ซื้อประกันสุขภาพให้แม่ ให้ลูก เลือกอย่างไรดี? ประกันสุขภาพเหมาจ่ายเป็นอย่างไร? บางคนอาจโพสต์ถาม pantip วันนี้โปรประกัน จึงจัด 10 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพ ให้คุณทราบก่อนเลือกประกันสุขภาพที่ตรงความต้องการ และ คุ้มค่าอย่างมือโปร


1. วงเงินคุ้มครองต่อปี ต่อครั้ง ต่อโรค หมายถึงอะไร

วงเงินคุ้มครองเป็นเรื่องแรกที่ต้องทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจซื้อ และมีความสัมพันธ์โดยตรงกับค่าเบี้ยประกันภัยที่ต้องชำระด้วยค่ะ ในบางครั้งคุณอาจพบแบบประกันที่วงเงินสูงมาก แต่ค่าเบี้ยประกันภัยถูกมาก เป็นไปได้จริงหรือ โปรประกันจึงอยากอธิบายให้เห็นชัดๆ โดยการสมมติวงเงินความคุ้มครองของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

ความคุ้มครอง แบบที่ 1 แบบที่ 2 แบบที่ 3
วงเงินต่อปี 300,000 300,000
วงเงินต่อครั้ง 300,000 30,000

ตัวอย่าง หากเจ็บป่วยเข้ารับการรักษาในโรคพยาบาล ด้วยโรค A ค่ารักษาพยาบาล 200,000 บาท ลองดูว่าประกันแต่ละแบบ จะเบิกค่ารักษาได้เท่าไหร่ และเหลือวงเงินเท่าไหร่

  1. แบบที่ 1 เบิกได้เต็ม 200,000 บาท เหลือวงเงิน 100,000 บาท จนครบอายุกรมธรรม์
  2. แบบที่ 2 เบิกได้เต็ม 200,000 บาท เหลือวงเงิน 100,000 บาท ในการเข้ารับการรักษาด้วยโรค A ภายใน 90 วัน (โรคเดิม) แต่หากเข้ารับการรักษาด้วยใหม่ หรือโรค A หลังจาก 90 วัน จะมีวงเงินใหม่ 300,000 บาท เบิกกี่ครั้งก็ได้จนครบอายุกรมธรรม์
  3. แบบที่ 3 เบิกได้ 30,000 บาท โดยต้องจ่ายค่ารักษาเอง 170,000 บาท เนื่องจากวงเงินต่อครั้ง จำกัด ที่ 30,000 บาท และจะมีวงเงินในการรักษาโรคใหม่ครั้งถัดไปครั้งละ 30,000 บาท จนครบ 300,000 บาทต่อปีกรมธรรม์

ซึ่งแบบที่ 3 นี้เอง หลายท่านอาจเข้าใจว่าได้วงเงิน 300,000 บาท และเบี้ยประกันภัยถูกมาก จะรู้อีกทีก็ตอนเคลม

วงเงินคุ้มครองตามตัวอย่างนี้ เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายนะคะ แต่หากเป็นประกันแบบแยกค่ารักษาจะต้องดูวงเงินแต่ละรายการแยกออกมาค่ะ


2. ทำประกันสุขภาพ ต้องทำประกันชีวิตก่อนหรือไม่

ไม่จำเป็นค่ะ เพราะปัจจุบันมีประกันสุขภาพของบริษัทในกลุ่มประกันวินาศภัย เช่น ประกันสุขภาพของวิริยะประกันภัย ประกันสุขภาพของกรุงเทพประกันภัย เป็นต้น

แต่หากคุณซื้อประกันสุขภาพกับกลุ่มบริษัทประกันชีวิต เช่น ประกันสุขภาพของเอไอเอ ประกันสุขภาพของกรุงเทพประกันชีวิต จะมีความคุ้มครองประกันชีวิตเพิ่มเข้าไปด้วย หรือหากคุณมีกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่แล้ว ก็สามารถซื้อประกันสุขภาพเพิ่มได้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์

แล้วจะเลือกแบบไหนดี โปรประกัน แนะนำว่าให้คุณพิจารณาจากความคุ้มครองสุขภาพเป็นหลักก่อน เพราะในปัจจุบันความคุ้มครองประกันชีวิตที่ต้องซื้อพร้อมประกันสุขภาพจะวงเงินไม่สูง เบี้ยประกันภัยส่วนเพิ่มจึงไม่สูงมากนัก


3. ประกันสุขภาพเหมาจ่ายค่ารักษา แตกต่างจาก ประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษา อย่างไร

ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายค่ารักษา เป็นการให้วงเงินเหมารวมตามตัวอย่างในข้อ 1 โดยอาจจะมีวงเงินจำกัดเพียงบางรายการ เช่น ค่าห้อง ส่วนประกันสุขภาพแบบแยกค่ารักษา จะมีการแยกวงเงินตามประเภทค่าใช้จ่าย เช่น ค่าห้อง ค่ารักษาพยาบาล ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ผ่าตัด ทำให้ในการเบิกเคลมจะเบิกได้ไม่ครบถ้วนทุกรายการ เมื่อถึงเวลาเคลมคุณก็อาจเกิดหงุดหงิด ที่ซื้อความคุ้มครองไว้ไม่เพียงพอ


4. ค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร ควรซื้อประกันสุขภาพแบบมีค่าเสียหายส่วนแรก หรือไม่

ก่อนอื่นขออธิบาย คำว่า ค่าเสียหายส่วนแรกก่อนนะคะ ค่าเสียหายส่วนแรก หมายถึง ค่ารักษาพยาบาลที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเอง และเก็บหลักฐานไว้ เมื่อครบตามจำนวนเงินค่าเสียหายส่วนแรกนั้นแล้ว จึงสามารถเบิกเคลมได้

ตัวอย่าง หากซื้อประกันสุขภาพแบบมีค่าเสียหายส่วนแรก 20,000 บาท เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล มีค่ารักษาเกิดขึ้น 35,000 บาท บริษัทประกันจะเคลมให้ในส่วนที่เกิน 20,000 บาท คือ 15,000 บาท

ส่วนคำถามว่าควรซื้อแบบมีค่าเสียหายส่วนแรกหรือไม่ มีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้ค่ะ

  • ข้อดี : เบี้ยประกันภัยถูกลง
  • ข้อเสีย : หากเปลี่ยนใจ ขอยกเลิกเงื่อนไขการรับค่าเสียหายส่วนแรกนี้ไว้เอง จะต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณารับประกันใหม่ ซึ่งอาจจะไม่สามารถยกเลิกได้ หรืออาจมีข้อยกเว้นบางโรคที่เกิดขึ้นมาก่อนขอยกเลิกเงื่อนไขนะคะ

5. ควรทำประกันสุขภาพแบบคุ้มครองผู้ป่วยนอก OPD ด้วยหรือไม่

ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก OPD มี 2 แบบ คือ

  1. วงเงินต่อครั้ง เช่น ครั้งละ 1,000-3000 บาท
  2. วงเงินต่อปี เช่น ปีละ 20,000 บาท

ซึ่งค่าเบี้ยประกันภัยคุ้มครอง OPD ค่อนข้างสูง โปรประกันจึงอยากให้คุณพิจารณาถึงความต้องการที่แท้จริง และคิดถึงว่าคุณเจ็บป่วยเล็กน้อยบ่อยครั้งหรือไม่ และหากเจ็บป่วยเล็กน้อยคุณพบแพทย์ที่โรคพยาบาลหรือไม่ และคุณมีสวัสดิการอื่นหรือไม่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้

ด้วยแนวคิดของโปรประกัน อยากให้คุณทำประกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่มีค่าใช้จ่ายสูง และควบคุมไม่ได้มากกว่าค่ะ


6. ทำไมประกันสุขภาพจึงต้องจำกัดวงเงิน ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลรายวัน

ด้วยค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลรายวัน เป็นสิ่งที่คนไข้สามารถเลือกได้เอง และมีระดับราคาสูง-ต่ำแตกต่างกันมาก ดังนั้น บริษัทประกันภัยจึงจำเป็นต้องควบคุมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้ และค่าเบี้ยประกันภัยจะมีความสัมพันธ์กับค่าห้องที่คุณเลือก


7. ต้องตรวจสุขภาพหรือไม่ ถึงจะซื้อประกันสุขภาพได้

ขึ้นอยู่กับแบบประกันสุขภาพแต่ละประเภทนะคะ แต่ที่สำคัญและจำเป็นแน่ๆ ก็คือ การตอบคำถามสุขภาพในใบคำขอเอาประกันภัยตามความจริง เพระหากคำตอบที่ให้ไม่เป็นความจริง จะเป็นเหตุให้ไม่สามารถเบิกเคลมได้ และสัญญาประกันภัยก็จะถูกสิ้นสุดลง หรือเรียกว่า โมฆียะ และถึงแม้เมื่อสัญญาประกันภัยสิ้นสุดลง เราจะได้เบี้ยประกันภัยคืน แต่ก็คงไม่อยากให้เป็นแบบนั้น และไม่ตรงตามความต้องการของเราใช่มั๊ยคะ


8. หากเคยเจ็บป่วย หรือมีโรคประจำตัว ซื้อประกันสุขภาพได้หรือไม่

ซื้อได้ค่ะ การเจ็บป่วย หรือมีโรคประจำตัวมาก่อน เรียกว่า โรคที่เป็นมาก่อนการทำประกัน บริษัทประกันจะพิจารณาตามความเสี่ยงที่บริษัทประกันจะรับได้ ซึ่งอาจจะมีการปรับเบี้ยประกันเพิ่มจากตารางเบี้ยประกันภัย หรืออาจจะติดเงื่อนไขไม่สามารถเคลมในบางโรคได้

โดยโรคที่ถูกติดเงื่อนไขเคลมไม่ได้ อาจจะมีระบุระยะเวลาว่าหากโรคดังกล่าวรักษาหายมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง บริษัทประกันจะพิจารณาปลดเงื่อนไขได้ค่ะ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายการพิจารณาของแต่ละบริษัทประกันนะคะ


9. หลังซื้อประกันสุขภาพ ความคุ้มครองเริ่มต้นเมื่อไหร่

เมื่อผ่านการพิจารณารับประกันและชำระเบี้ยประกันภัยแล้ว ความคุ้มครองจะเริ่มต้นขึ้น โดยที่
กรณีบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ สามารถเคลมได้ทันที

แต่ถ้าเป็นการเจ็บป่วยจากโรค จะยังไม่สามารถเคลมได้ หรือที่เรียกว่า ระยะเวลารอคอย ซึ่งเป็นระยะเวลานานกี่วัน ขึ้นอยู่กับชนิดของโรค และเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ระยะเวลารอคอยแบ่งตามประเภทโรค ดังนี้

โรคทั่วไป ระยะเวลารอคอย 30 วัน
โรคร้ายแรง เรื้องรัง เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดสมอง ระยะเวลารอคอย 90-120 วัน


10. หากเจ็บป่วยหนัก มีเคลมสูง จะต่ออายุกรมธรรม์ประกันสุขภาพได้หรือไม่

โดยทั่วไปหากผู้เอาประกันภัน ไม่มีความตั้งใจเคลมที่ผิดปกติ บริษัทประกันแจ้งให้คุณต่ออายุประกันภัย แต่หากเคลมสูงบริษัทประกันอาจพิจารณาปรับเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นเป็นรายกรณี

การพิจารณาต่ออายุสัญญาประกันสุขภาพ ขึ้นอยู่กับแบบประกันภัยและนโยบายของแต่ละบริษัทประกันด้วยนะคะ


เมื่อเข้าใจทั้ง 10 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อประกันสุขภาพแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะลองดูความคุ้มครองของแต่ละบริษัทประกัน แต่หากยังไม่มั่นใจ สามารถแซทมาคุยกับโปรประกันได้เลยนะคะ ทีมงานชือ “น้องกันเอง” ยินดีตอบทุกคำถาม ด้วยความเต็มใจค่ะ