ก่อนอื่นทุกคนต้องเคยได้ยิน หรือการพูดถึงเกี่ยวกับ ใบขับขี่แน่นอนค่ะ ซึ่งใบขับขี่ หรือ ใบอนุญาตทางกฎหมายนั่นคือ เอกสารสำคัญที่อยู่ในรูปแบบบัตร สำหรับผู้คนที่ใช้งานรถร่วมกันบนท้องถนน เพื่อเป็นการยืนยันว่าบุคคลเจ้าของนั้น สามารถขับรถได้จริง และต้องได้รับอนุญาตให้สามารถขับรถได้ถูกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด หากเกิดการขับรถที่ไม่มีใบขับขี่ จะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดตามกฎหมาย ดังนั้นสำหรับมือใหม่ที่กำลังจะขับรถ ต้องทราบก่อนว่า 3 เรื่องที่ควรรู้ก่อนจะทำใบขับขี่่ ควรรู้อะไรบ้างนะ
คุณสมบัติของผู้ทำใบขับขี่
ก่อนที่เราจะทำใบขับขี่นั้น เราต้องตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นก่อน ว่ามีข้อใดที่ไม่สามารถทำใบขับขี่ได้หรือไม่ โดยมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- อายุต้องไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- ต้องไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการที่เห็นได้ว่าไม่สามารถใช้งานในการขับรถได้
- ต้องไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ เช่น โรคลมชัก และโรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นต้น
- ต้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
- ต้องไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
ชนิดของใบขับขี่
การทำใบขับขี่นั้น เราต้องทราบก่อนว่ายานพาหนะ หรือรถยนต์ที่เราต้องการจะใช้ ต้องทำใบขับขี่ชนิดไหน เพื่อที่เราจะได้เลือกทำใบขับขี่ได้ถูกต้อง ซึ่งใบขับขี่จะถูกแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
–ใบขับขี่ส่วนบุคคล (ประเภท บ. แผ่นป้ายทะเบียนสีขาว ) คือ ใบอนุญาตที่สำหรับใช้งานส่วนบุคคล หรือขนส่งการค้าธุรกิจส่วนตัว
–ใบขับขี่ทุกประเภท (ประเภท ท. แผ่นป้ายทะเบียนสีเหลือง ) คือ ใบอนุญาตที่ใช้สำหรับใช้งานได้ทุกประเภท หรือขนส่งเพื่อการค้า หรืองานรับจ้าง
โดยแบ่งตามรูปแบบของการใช้งานนั้น แบ่งได้เป็น 11 ชนิด
ลำดับ | ชนิดของใบอนุญาต | อายุการใช้งาน | ค่าธรรมเนียม |
1 | ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราว
– ใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว – ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อชั่วคราว – ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว |
2 ปี
|
100 บาท 50 บาท 50 บาท |
2 | ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล | 5 ปี | 500 บาท |
3 | ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ | 3 ปี | 300 บาท |
4 | ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล | 5 ปี | 250 บาท |
5 | ใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ | 3 ปี | 150 บาท |
6 | ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล | 5 ปี | 250 บาท |
7 | ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ | 3 ปี | 150 บาท |
8 | ใบอนุญาตขับรถบดถนน | 5 ปี | 250 บาท |
9 | ใบอนุญาตขับรถแทรกเตอร์ | 5 ปี | 250 บาท |
10 | ใบอนุญาตขับรถชนิดอื่นนอกเหนือจาก 1 ถึง 9 | 5 ปี | 100 บาท |
11 | ใบอนุญาตขับรถตามความตกลงระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคี (ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ) หรือใบขับขี่สากล | 1 ปี | 500 บาท |
ที่มาข้อมูล : สำนักงานขนส่ง กรุงเทพมหานครพื้นที่ 2
ขั้นตอนการทำใบขับขี่
ซึ่งก่อนที่เราจะไปทำใบขับขี่นั้น เราต้องทราบขั้นตอนของการทำใบขับขี่ เพื่อการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปทำ ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.การเตรียมเอกสาร
-เตรียมบัตรประชาชนใบจริง
–ใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
2.การจองคิวทำใบขับขี่ล่วงหน้า
–สามารถดาวน์โหลดในมือถือผ่าน Application ทั้งใน
App Store : https://apps.apple.com/th/app/dlt-smart-queue/id1437480803
Play Store : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.DLT.SmartQueue&hl=th&gl=US
หรือจองคิวผ่านทาง Website : https://gecc.dlt.go.th/
3.เดินทางไปสำนักงานขนส่งตามวันที่ได้จองคิวไว้
ควรไปถึงสำนักงานขนส่งตามเขตที่เลือกไว้อย่างน้อย 20 นาที เนื่องจากจะมีเอกสารให้เรากรอกคัดกรองเบื้องต้นก่อน
3.1 มีการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
– ทดสอบสายตาบอดสี (การมองเห็นสี เขียว,เหลือง,แดง)
– ทดสอบสายตาทางลึก-ทางกว้าง
– ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า ในการเหยียบเบรคเมื่อเห็นไฟสัญญาณ
3.2 มีการอบรม ระยะเวลา 5 ชั่วโมง (ต้องอบรมที่สำนักงานขนส่งเท่านั้น) โดยมีเนื้อหาการอบรม
–กฎหมายที่ว่าด้วยรถยนต์
–กฎหมายที่ว่าด้วยทางหลวง
–กฎหมายที่ว่าการจราจรทางบก
–มารยาทในการขับรถ และการขับรถอย่างปลอดภัย
3.3 การทดสอบภาคทฤษฎี
เข้ารับการสอบข้อเขียนโดยคอมพิวเตอร์ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งหมด 50 ข้อ เกณฑ์ในการผ่านคือ อย่างน้อย 90% (ผ่าน 45 ข้อ)
3.4 การทดสอบภาคปฏิบัติ
โดยจะมีการนัดหมายมาทำการทดสอบในวันอื่น เป็นการทดสอบการขับขี่รถยนต์ มี 3 ท่า ดังนี้
–ท่าเดินหน้า และถอยหลัง
–ท่าจอดรถที่เทียบทางเท้า
–ท่าถอยหลังเพื่อเข้าจอดรถ
3.5 การชำระเงิน โดยมีรายละเอียดการชำระดังนี้
–ค่าธรรมเนียมการทำใบอนุญาต (ราคาจะแตกต่างกันตามชนิดของใบขับขี่)
–ค่าคำขอฉบับละ 5 บาท
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับข้อควรรู้ที่น้องกันเอง ได้รวบรวมมาให้ ซึ่งจะเห็นจะได้ว่า กว่าจะได้ใบขับขี่มา 1 ใบนั้น มีกระบวนการ และขั้นตอนที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งใบขับขี่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ขับรถทุกคนจำเป็นต้องมี เพราะมันคือข้อพิสูจน์ว่าคุณได้ผ่านการใช้รถทั้งในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติมาแล้ว มีความพร้อมที่จะใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น และเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นการมีประกันภัยรถยนต์ หรือประกันอุบัติไว้คอยคุ้มครอง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ขับขี่ใช้รถทุกคน
สุดท้ายนี้ถ้าคิดถึงประกันภัย อย่าลืมคิดถึง PROPRAKAN นะคะ
#โปรประกันเป็นกันเอง #คัดมาแล้วว่าคุ้ม #ประกันรถยนต์ #ประกันอุบัติเหตุ #ประกันอะไหล่รถยนต์