ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกยางรถยนต์

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อยางรถยนต์

[vc_row][vc_column][vc_column_text]ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนยางรถยนต์หรือซื้อยางใหม่ มั่นใจแล้วหรือว่า คุณรู้วิธีเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถและการใช้งานในชีวิตประจำวันเพราะการเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมจะช่วยประหยัดน้ำมัน เพิ่มความปลอดภัย และตอบสนองการขับรถได้ดี แม้ยางรถยนต์แต่ละยี่ห้อจะดูคล้ายกัน แต่จริงๆแล้วแตกต่างกันด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ลวดลาย ความทนทาน[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_column_text]

ยางรถยนต์มีกี่ประเภท?

[/vc_column_text][vc_single_image image=”314155″ img_size=”large” alignment=”center”][vc_column_text]ยางรถยนต์มี 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ Highway Terrain, All Terrain และ Mud Terrain แตกต่างกันตรงดอกยาง ซึ่งควรเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานรถยนต์แต่ละประเภท[/vc_column_text][vc_single_image image=”314160″ img_size=”large” alignment=”center”][vc_column_text]

Highway Terrain

[/vc_column_text][vc_column_text]

ยางรถประเภท Highway Terrain จะมีตัวย่อสลักอยู่ข้างล้อว่า H/T เป็นยางรถยนต์ที่คนนิยมใช้มากที่สุด เป็นยางมาตรฐานสำหรับรถใหม่ ยางรถประเภทนี้จะมีดอกยางแบบละเอียด (Rib Pattern) ลักษณะดอกยางแบบนี้เป็นแนวยาวตามเส้นรอบวงยาง เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไป ใช้สำหรับวิ่งบนทางเรียบ

[/vc_column_text][vc_single_image image=”314158″ img_size=”large” alignment=”center”][vc_column_text]

All Terrain

[/vc_column_text][vc_column_text]

ยางรถประเภท All Terrain มีตัวย่อบนยางว่า A/T เป็นยางรถยนต์ที่รถกระบะนิยมใช้ ดอกยางจะมีขนาดใหญ่และหนา ร่องยางห่างจากกันเล็กน้อย สามารถสัมผัสพื้นผิวถนนได้ ขับบนทางขรุขระได้ แต่เมื่อนำไปวิ่งบนถนนทางเรียบ จะมีเสียงดังกว่ายางรถประเภท Highway Terrain เนื่องจากยางมีน้ำหนักมากกว่า และมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งกว่ายางรถประเภท Highway Terrain

[/vc_column_text][vc_single_image image=”314159″ img_size=”large” alignment=”center”][vc_column_text]

Mud Terrain

[/vc_column_text][vc_column_text]

ยางรถประเภท Mud Terrain ที่มีตัวย่อว่า M/T จะเป็นยางรถยนต์สำหรับสายลุยหรือรถออฟโรด จะมีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่ายาง HT และ AT มีดอกยางที่เรียกว่า ดอกบล็อก (Block Pattern) ลักษณะดอกยางเป็นรูปทรงเหลี่ยมหรือวงกลม แตกต่างจากลายดอกแบบละเอียดและบั้ง ดอกยางบล็อกมีประสิทธิภาพในการตะกุยสูง จึงเหมาะกับรถออฟโรดหรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ต้องการในการทางทุรกันดารมีความขรุขระ หินโคลนหรือน้ำเป็นอุปสรรค

[/vc_column_text][vc_column_text]

เรารู้จักประเภทของยางรถทั้ง 3 กันแล้ว เวลาจะใช้งานควรให้ความสำคัญและดูที่ความเหมาะสมในการใช้งานให้มากที่สุด ที่สำคัญควรเติมลมยางให้พอดี ขับรถอย่างปลอดภัยด้วย

ที่มา masii ,รู้ใจ,Autospinn

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_single_image image=”314157″ img_size=”large” alignment=”center”][vc_column_text]

ยางรถยนต์ใช้กี่ปีต้องเปลี่ยน?

อายุยางรถยนต์จะอยู่ที่ 2-5 ปี หรือ 30,000-40,000 กิโลเมตร (แล้วแต่การใช้งาน) แต่หากเราใช้ยางเกิน 5 ปีขึ้นไป หรือใช้งานรถหนักมากเกินไป เช่น ขนของหนักบ่อยๆ เดินทางไกลๆ บ่อยๆ ควรเช็คสภาพยางอย่างน้อยปีละครั้ง หากพบว่ายางรถยนต์เสื่อมสภาพหรือสึกหรอ เช่น มีหลุมในดอกยาง , ขอบยางเกิดการเสียรูป หรือแก้มยางเสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนะคะ

[/vc_column_text][vc_column_text]

วันเวลาที่ผลิตยางรถยนต์ ดูอย่างไร?

ควรเลือกยางที่ผลิตใน 3-6 เดือน หากหาไม่ได้จริงๆ จะใช้ยางที่ผลิตภายใน 1-2 ปีก็ได้เช่นกัน เพราะมีประสิทธิภาพไม่ต่างกันมากนัก สามารถใช้งานได้ยาวๆ สำหรับวิธีการดูอายุยางรถยนต์ ให้เช็คจากตัวเลขสี่หลักบนแก้มยางซึ่งใช้บอกวันเวลาที่ผลิตยาง

ตัวอย่าง

  • ตัวเลขคู่หน้า “15” ใช้บอกสัปดาห์ที่ผลิตยาง
  • ตัวเลขคู่หลัง “19” ใช้บอกปี ค.ศ.ที่ผลิตยาง

ตัวเลข 1519 หมายความว่า ยางเส้นนี้ผลิตในสัปดาห์ที่ 15 ของปี 2019 นั่นเองค่ะ

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column][vc_single_image image=”314156″ img_size=”large” alignment=”center”][vc_column_text]

ทำไมจึงต้องเปลี่ยนยางรถยนต์เป็นคู่?

[/vc_column_text][vc_column_text]

ปกติแล้วผู้ใช้รถมักจะเปลี่ยนยางเป็นคู่หรือเปลี่ยนครบทุกล้อ เพราะมีการเสื่อมสภาพพร้อมกัน โดยการเปลี่ยนยางรถยนต์พร้อมกันนั้น ควรจะเป็นยี่ห้อและรุ่นเดียวกัน เพื่อให้สมรรถนะของทั้งสองฝั่งเท่ากัน เพราะหากฝั่งใดฝั่งหนึ่งยึดเกาะถนนได้ดีกว่า ก็จะทำให้ฝั่งนั้นสึกหรอเร็วกว่านั่นเอง

“เราสามารถเปลี่ยนยางเส้นเดียวได้ไหม?” “ได้” แต่ควรเลือกยางที่มีความลึกเท่ากับอีกฝั่งหรือต่างกันไม่เกิน 2 มิลลิเมตร เพราะหากต่างกันมากเกินไป ยางที่มีความสูงมากกว่าจะรับน้ำหนักเยอะกว่า และทำให้ยางเส้นนั้นเสื่อมสภาพเร็วกว่าอีกเส้น

อายุยางรถยนต์มีจำกัด ผู้ใช้รถจึงควรตรวจสภาพยางและเปลี่ยนเมื่อถึงเวลา นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการขับขี่ที่อาจทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็ว เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนด้วยนะคะ

ที่มา : khaorot.com

ยางรถยนต์ในท้องตลาดมียี่ห้อไหนบ้าง?

การเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถของคุณ ควรคำนึงถึงประเภทของรถเป็นหลัก เช่น City Cars ,SUV, รถสปอร์ต,รถกระบะ เป็นต้น จากนั้นให้คำนึงถึงการใช้งานในชีวิตประจำวัน สไตล์การขับขี่ ยี่ห้อ คุณภาพ การเกาะถนน ป้องกันการลื่นไถล ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ และช่วยประหยัดน้ำมันได้ด้วย ส่วนจะมียางรถยนต์ยี่ห้อไหนบ้าง ไปดูกันเลย

  • Yokohama รุ่น BluEarth-GT AE51 เอาใจคนรักความเร็วและเน้นการเกาะถนนได้อย่างดี อีกทั้ง Yokohama ยังขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ ความทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน และโครงสร้างของยางที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อลดความเสียหายระหว่างการใช้งานได้อย่างดี ลายดอกยางไม่เสียรูปหรือสึกหรอง่าย เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไปหรือคนที่ขับรถด้วยความเร็ว (https://bit.ly/35yfes0)
  • Dunlop รุ่น SP Sport LM 705 ยางรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ลายดอกยางช่วยลดการสั่นสะเทือนและกระจายน้ำหนักได้ดี เพิ่มความนุ่มนวล ลดเสียงรบกวนและช่วยประหยัดน้ำมัน ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยี “Shinobi” เฉพาะของแบรนด์จากญี่ปุ่น เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบความสปอร์ตแต่ยังคงความนุ่มนวลนั่งสบาย (https://bit.ly/3Ly4CZy)
  • Michelin รุ่น Energy XM2+ ยางรถยนต์ที่ผลิตจาก Full Silica หรือเนื้อยางรูปแบบใหม่ ให้ความยืดหยุ่นสูงและยึดเกาะถนนได้ดี ผ่านการทดสอบแล้วว่า ช่วยให้ระยะเบรกสั้นกว่ายางทั่วไปถึง 1.5 เมตร และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่ายางทั่วไปประมาณ 25% เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดกลางและอีโคคาร์ (https://bit.ly/3wUKGMq)
  • Pirelli รุ่น Scorpion Verde All Season สำหรับรถ SUV และ MPV ด้วยยางสัญชาติอิตาเลียน เหมาะสำหรับสายลุยที่เน้นการยึดเกาะถนนได้ดีทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นบนพื้นขรุขระ เนื้อยางได้รับการออกแบบให้ทนทานสูง น้ำหนักเบา ช่วยลดแรงต้านการหมุน และผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วย (https://bit.ly/3IVsTHe)
  • Goodyear รุ่น EfficientGrip Performance SUV ยางสำหรับรถ SUV ที่เน้นการยึดเกาะถนนได้ดี ช่วยลดแรงต้านการหมุน ช่วยให้ระยะเบรกสั้น ป้องกันล้อไถลบนถนนเปียก สามารถควบคุมการขับรถได้ง่ายขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยี “QUIETTRED” ช่วยลดเสียงรบกวน ลดแรงกระแทก และลดแรงสั่นสะเทือนได้อย่างดี ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเหมาะสำหรับการขับบนถนนเรียบ (https//bit.ly/3jaTRAh)
  • Bridgestone รุ่น Potenza Adrenalin RE400 เอาใจสายสปอร์ตที่เน้นความเร้าใจในการขับขี่ เป็นยางรถยนต์ที่ออกแบบมาให้ยึดเกาะถนนและเข้าโค้งได้ดี ร่องยางรูปตัว A ช่วยกระจายแรงกดได้อย่างสม่ำเสมอส่งผล ให้เข้าโค้งและหยุดรถได้อย่างปลอดภัยทั้งบนถนนแห้งและถนนเปียก ทั้งยังช่วยให้ขับสนุก ตอบสนองฉับไว และควบคุมพวงลัยได้แม่นยำมากขึ้น เหมาะสำหรับรถยนต์ทุกรุ่นและรถสปอร์ต (https://bit.ly/3J2eGrL)
  • Nexen รุ่น Roadian HP ยางรถยนต์ที่ได้รับการออกแบบให้ยึดเกาะถนนทุกประเภท เน้นความทนทาน เข้าโค้งแม่นยำ ด้วยดอกยางกว้างและหน้ายางออกแบบเป็นรูปตัว V ช่วยให้ควบคุมรถง่ายขึ้นและลดการลื่นไหล และการเหินน้ำบนถนนเปียก เพื่อความปลอดภัย พร้อมเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่และลดเสียงรบกวนได้อย่างดี เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไปและรถกระบะ (https//bit.ly/3DtuaEc)
  • Bridgestone รุ่น Ecopia EP300 ได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยี “Nano Pro-Tech” ลิขสิทธิ์เฉพาะของบริดจ์สโตน ช่วยเพิ่มแรงต้านจากการหมุนของล้อ ลดการใช้พลังงานสิ้นเปลืองและช่วยประหยัดน้ำมัน ตอบสนองไวต่อการเบรก ระยะเบรกสั้น เกาะถนนดีแม้เข้าโค้งด้วยความเร็วช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น ดีไซน์ดอกยางช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดการบิดของดอกยางเมื่อเข้าโค้ง เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดกลางและขนาดเล็ก (https://bit.ly/3DsTHxe)
  • Deestone รุ่น Titan T88 สำหรับคนชอบบรรทุกของหนัก ด้วยยางรถยนต์สัญชาติไทยที่ได้รับการยอมรับด้านมาตรฐานในระดับสากล ผลิตจากเนื้อยางที่มีความแข็งแรง ทนทาน พร้อมลุยทุกสภาพถนนด้วยลายดอกยางแบบ 3 มิติ ช่วยให้กระจายน้ำหนักได้มากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ทรงตัวได้ดีเยี่ยม ลดการเหินน้ำบนถนนเปียก และลดเสียงรบกวนได้อย่างดี (https://bit.ly/3tWwC31)
  • Continental รุ่น Ultra Contact UC6 ยางรถยนต์คุณภาพดีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มรถยุโรป โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Aqua Drainage และ Aqua Channel ช่วยลดการเหินน้ำและรีดน้ำออกจากดอกยางได้อย่างดี ช่วยให้ควบคุมรถได้ดีบนถนนเปียกด้วยผิวยางสม่ำเสมอ เพื่อให้หน้ายางสัมผัสและยึดเกาะถนนได้มากที่สุด พร้อมเพิ่มความปลอดภัยด้วยโครงสร้างแบบ Diamond Blend Compound ที่ได้รับการออกแบบให้เหมือนเพชร ทำให้สัมผัสกับพื้นถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เบรกทำงานได้ดี พร้อมทำหน้าที่เสมือนที่ปัดน้ำฝนบนถนนเปียกช่วยปัดน้ำออกจากดอกยางเพื่อการเบรกระยะสั้น ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น ลดแรงกระแทก และเพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่ (https://bit.ly/3IVMBCD)

ขอบคุณที่มา cars24.co.th

สุดท้ายนี้สำหรับคนที่มีรถทุกคนมีรถแล้วอย่าลืมทำประกันรถยนต์ไว้ด้วยนะคะ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันประกันภัยจะเข้ามาดูแลในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้นให้เรา เลือกซื้อ ประกันชั้น 1 ,ประกันชั้น 2 ,ประกันชั้น 3 ผ่านโปรประกัน คลิกที่นี่ได้เลยค่ะ !!! (https://www.proprakan.com/car-insurance)

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]