ช่องทางต่อภาษีรถยนต์

รวมช่องทางการต่อภาษีรถยนต์

รวมช่องทางการต่อภาษีรถยนต์ 2566

อย่างที่ว่ากันนะคะ ซื้อรถแล้วเป็นคนมีค่าขึ้นมาทันทีเลย แต่ ๆ ๆ…..มันเป็นค่าใช้จ่ายจ้า และค่าใช้จ่ายที่ลืมไม่ได้ ขาดต่อไม่ดี นั่นก็ คือ ภาษีรถยนต์ หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า ป้ายวงกลม เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระทุกปี  ตามกฎหมายที่ได้กำหนดไว้ แล้วสงสัยกันไหมคะว่าทำไมเราต้องต่อภาษีทุกปีด้วย ?  ก็เพราะว่า เงินภาษีที่เราจ่ายไปจะถูกนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน  เพื่อเป็นการสนับสนุนถนนที่เราต้องใช้งานทุกวัน  ดังนั้นการต่อภาษีจึงถือว่ามีความสำคัญอย่างมากค่ะ  แล้วอย่างนี้จะมีช่องทางไหนบ้างที่อำนวยความสะดวกในการต่อภาษีให้กับเรา วันนี้น้องกันจะพาไปทำความรู้จัก กับช่องทางการต่อภาษีรถยนต์ ว่ามีกี่ช่องทาง    มีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 

แต่ ๆ ๆ เดี๋ยวก่อนนะคะ ก่อนที่เราจะทราบถึงช่องทางการต่อภาษีนั้น เราควรรู้จักการแบ่งประเภทของรถยนต์ในการขอจดทะเบียนตามกฎหมายที่กำหนดว่ามีอะไรบ้าง เมื่อเราเห็นประเภทดังกล่าวจะได้ไม่ชวนให้สงสัยค่ะ 

ประเภทของรถยนต์ตามการจดทะเบียน

แบ่งเป็นดังต่อไปนี้ 

ลำดับ  ประเภทของรถตามการขอจดทะเบียน  ตัวย่อ 
1  รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน  รย.1 
2  รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน  รย.2 
3  รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล  รย.3 
4  รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล  รย.4 
5  รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด  รย.5 
6  รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน  รย.6 
7  รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง   รย.7 
8  รถยนต์รับจ้างสามล้อ  รย.8 
9  รถยนต์บริการธุรกิจ  รย.9 
10  รถยนต์บริการทัศนาจร  รย.10 
11  รถยนต์บริการให้เช่า  รย.11 
12  รถจักรยานยนต์  รย.12 
13  รถแทรกเตอร์  รย.13 
14  รถบดถนน  รย.14 
15  รถใช้งานเกษตรกรรม  รย.15 
16  รถพ่วง  รย.16 
17  รถจักรยานยนต์สาธารณะ  รย.17 

ช่องทางการต่อภาษีรถยนต์

มาถึงที่ช่องทางการเสียภาษีรถยนต์กันต่อเลยนะคะ น้องกันเองจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ 1.ช่องทางปกติออนไซต์ที่เราต้องเดินทางไป ณ จุด ๆ นั้น และ 2. ช่องทางออนไลน์ที่เราสามารถทำผ่านได้บนคอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์มือถือ จะมีรายละเอียดยังไงกันบ้าง ไปดูกันค่ะ  

1.การชำระผ่านช่องทางปกติ 

จากการแบ่งประเภทของรถยนต์ในการขอจดทะเบียนตามกฎหมายที่กำหนด ซึ่งน้องกันเองได้รวบรวม ช่องทางการต่อภาษีของรถตามประเภทดังกล่าวที่นิยมใช้กัน มาให้ทั้งหมด 6 ช่องทางดังต่อไปนี้ค่ะ  

 

ช่องทางการต่อภาษี 

รย.1  รย.2  รย.3  รย.12  รย.13  รย.14  รย.16 
สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน               
ไปรษณีย์               
เลื่อนล้อต่อภาษี 

(Drive Thru for Tax) 

             
ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี                  
ธนาคาร ธ.ก.ส                  
เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ                 

และหลักฐานหรือเอกสารที่ต้องนำไปใช้ยื่นต่อภาษี เป็นดังนี้ค่ะ 

– ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ตัวจริง หรือสำเนา  

– หลักฐานหรือเอกสารการเอาประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ที่ยังไม่หมดอายุ 

– กรณีรถติด LPG/CNG ต้องมีหนังสือรับรองการตรวจทดสอบรถ 

หมายเหตุ : สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) , รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) ที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป หรือรถจักรยานยนต์ (รย.12) ที่จดทะเบียน มาแล้วตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ต้องมีใบรับรองการตรวจสภาพรถ จากสถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือ ตรอ.  

2. การต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ของกรมขนส่งทางบก

2.1 ต่อภาษีผ่านทางเว็บไซต์ 

กรมการขนส่งทางบก

1.เข้าสู่เว็บไซต์ : https://eservice.dlt.go.th  

2.ลงทะเบียนเพื่อขอรับรหัสผ่าน (สำหรับสมาชิกใหม่)  

3.Log-in เพื่อเข้าสู่ระบบ  

4.คลิกยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ที่เมนู “ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี”  

5.ต้องกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ เพื่อลงทะเบียนรถ แล้วยื่นชำระภาษี 

6.เลือกช่องทางในการชำระเงิน เพียง 1 ช่องทาง โดยมีช่องทางให้เลือกดังนี้ 

  • ชำระเงินโดยหักบัญชีเงินฝาก
  • ชำระเงินโดยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต (สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต/บัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์ VISA , Master Card) โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้ให้บริการรับตัดบัตร
  • ชำระเงินโดยการพิมพ์ใบแจ้งการชำระภาษี แล้วนำไปชำระเงิน ที่เคาน์เตอร์ , ตู้ ATM หรือ Mobile Banking ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ

หมายเหตุ : เงื่อนไขการยื่นชำระภาษี แบบ eservice 

 – รถยนต์ประเภท รย.1, รย.2 และ รย.3 ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี และ รย.12 ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับจากวันที่จดทะเบียนครั้งแรก ต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนที่จะชำระภาษีรถยนต์ได้ 

– รถยนต์ที่มีการค้างชำระภาษีรถ เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อน 

– ชำระภาษีประจำปีล่วงหน้าไม่เกิน 90 วัน ก่อนวันครบกำหนดชำระภาษี 

2.2 การต่อภาษีรถยนต์ผ่าน DLT VEHICLE TAX 

App ต่อภาษี

1.ดาวน์โหลด App ให้เรียบร้อยแล้ว กดลงทะเบียน กรอกข้อมูล 

2.รอรับรหัส OTP ที่ได้รับทาง Email

3.ตั้งรหัส PIN Code จำนวน 6 หลัก 

4.เลือกรูปแบบชำระภาษี (ชำระภาษีรถตนเอง , ชำระภาษีแทนเจ้าของรถ)

5.กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ หรือ เลขทะเบียนนิติบุคคลของเจ้าของรถ 

6.กรอกเลือกประเภทของรถที่จะจ่ายภาษี และบันทึกข้อมูลเลขทะเบียนรถ

7.ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนเลือกชำระเงิน 

เป็นอย่างไรบ้างคะพี่ ๆ กับช่องทางการเสียภาษีรถ ที่น้องกันเองได้รวบรวมมาให้ น้องกันเองหวังว่าจะเป็นประโยชน์ และทางเลือกให้กับพี่ ๆ ได้นะคะ ซึ่งน้องกันเองขอเตือนไว้อีกหนึ่งอย่างนะคะ หากเกิดการไม่ต่อภาษีรถยนต์ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปีจะทำให้ทะเบียนรถยนต์ถูกระงับ และเจ้าของรถจะต้องนำรถไปจดทะเบียนภาษีรถยนต์ใหม่อีกด้วยค่ะ รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมไปต่อภาษีกันนะคะ และนอกจากการเสียภาษีรถยนต์ ยังมีอีกหนึ่งค่าใช้จ่าย  ที่ถือว่ามีไว้ให้อุ่นใจ ดีกว่ายามใช้ แต่ไม่มี นั้นคือ การทำประกันรถยนต์ค่ะ เพราะการขับขี่บนท้องถนน อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ แต่ถ้าพี่ ๆ ยังไม่แน่ใจ หรือ เกิดข้อสงสัยในการเลือกประกัน ทักมาปรึกษาน้องกันเองได้ตลอดเลยนะคะสุดท้ายนี้ถ้าคิดถึงประกันภัย อย่าลืมคิดถึง PROPRAKAN นะคะ   

 #โปรประกัน #proprakan #คัดมาแล้วว่าคุ้ม #ประกันรถยนต์  #ภาษีรถยนต์ 

ขอขอบคุณข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก